???? 1. ทำเล
ทำเลถือเป็นเรื่องพื้นฐานอันดับต้นๆของการเลือกซื้อบ้านอยู่แล้ว หากเป็นพื้นที่ที่อยู่ในย่านชุมชนเมืองย่อมมีราคาที่สูงเป็นทุนเดิม เรียกได้ว่า หารเราเลือก“ทำเลดีก็มีชัยไปกว่าครึ่ง” ทำเลควรเลือกอย่างไร ?
-ควรเลือกทำเลที่สามารถเดินทางได้สะดวก คล่องตัว หรือมีทางเลือกในการเดินทาง ได้หลายรูปแบบ เช่น รถโดยสาร เรือโดยสาร รถไฟฟ้า รถใต้ดิน
-หากไม่ต้องการให้บ้านมีเสียงรบกวน อันเนื่องมาจากการจราจรวุ่นวาย ก็ควรหลีกเลี่ยงการเลือกบ้านที่อยู่ใกล้ถนนเมนของโครงการที่มีจุดตัดกับแยกต่างๆ ซึ่งรถที่ผ่านไปมาจะส่งเสียงดังตลอดเวลา
-ไม่ควรเลือกทำเลบ้านที่อยู่ก้นซอยตัน ไม่มีที่กลับรถหรือซอยแคบเกินไป การเข้าออก ไม่สะดวก หากเกิดเหตุฉุกเฉินขึ้น
-หลีกเลี่ยงบ้านที่อยู่ใกล้กับร้านค้า ร้านอาหาร เนื่องจากอาจจะมีผลกระทบในเรื่องที่จอดรถ หรือความสงบในการอยู่อาศัย
-พยายามห่างไกลทำเลที่อยู่ใกล้กับจุดทิ้งขยะของหมู่บ้าน หรือบ่อบำบัดน้ำเสีย เพราะอาจจะมีปัญหาเรื่องกลิ่นเหม็นรบกวน
???? 2. สภาพแวดล้อม
ก่อนที่จะเลือกซื้อบ้านเราควรที่จะสำรวจสภาพแวดล้อมและเพื่อนบ้านโดยเข้าไปพูดคุยสำรวจสอบถามเก็บข้อมูลให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ในสภาพแวดล้อมควรเน้นเลือกแหล่งที่ยังคงเจริญต่อไป และมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่อชีวิตประจำวัน เช่น ใกล้โรงเรียน ศูนย์การค้า ตลาด และโรงพยาบาล ทั้งนี้ควรอยู่ภายใต้เงื่อนไขว่าน้ำจะต้องไม่ท่วมและไม่มีมลภาวะทางกลิ่น แสง และเสียง
???? 3. สภาพของบ้าน
สภาพของบ้านมือสอง เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญ เนื่องจากสภาพบ้านมือสอง จะขึ้นอยู่กับความต้องการและปริมาณสินค้าในตลาดแล้วยังขึ้นอยู่กับลักษณะตัวบ้านมือสองเองด้วย ดังนั้นจึงควรสำรวจและประเมินราคาทรัพย์สินด้วยตัวเอง เช่น ตรวจดูขนาดทรัพย์สินว่าเหมาะสมกับการใช้ประโยชน์หรือเปล่า สภาพทรัพย์สิน การปรับปรุงทรัพย์สิน และการจัดการทรัพย์สิน
???? 4. หาซื้อบ้านที่ราคาเช่า ต่ำกว่าราคาเช่าทั่วไป
การซื้อบ้านมือสองควรหาซื้อบ้านที่เคยปล่อยให้เช่าและราคาค่าเช่าต่ำกว่าราคาเช่าในท้องตลาดทั่วไป เพราะหากเราซื้อมา และปล่อยให้เช่าเราสามารถเพิ่มค่าเช่าได้ เป็นอีกหนทางหนึ่งในการหารายได้เข้ากระเป๋า
???? 5. เลือกซื้อบ้านที่มีเงื่อนไขเงินกู้สนับสนุน
การเลือกซื้อบ้านมือสองที่มีเงื่อนไขเงินกู้สนับสนุน เช่น อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าตลาด หรืออัตราดอกเบี้ย 0% เพราะผลประโยชน์เหล่านี้คือส่วนลดจากราคาซื้อบ้านมือสองนั่นเอง
???? 6. บริการชุมชน
เราควรสอบถามเรื่องบริการชุมชนจากเพื่อนบ้านว่างานสารธาณูปโภคตลอดจนค่าใช้จ่ายส่วนกลางเป็นอย่างไร การดูแลรักษาสภาพโครงการสม่ำเสมอ และเหมาะสมหรือไม่
???? 7. การจดทะเบียน
ต้องคุยเรื่องค่าใช้จ่ายในการจดทะเบียนโอนบ้านมือสองที่จะซื้อ และภาษีให้ชัดเจนว่าใครเป็นผู้รับภาระ จะได้ไม่มีปัญหาตามมาภายหลัง
???? 8. เปรียบเทียบราคาและต่อรองราคา
ก่อนเลือกซื้อบ้านควรที่จะเปรียบเทียบกับราคาประเมินบ้านที่มีอยู่แล้ว เช่น ราคาซื้อขายบ้านมือสอง ที่คล้ายคลึงในบริเวณที่ใกล้เคียง รวมถึงราคาประเมินของกรมที่ดิน ของธนาคาร และบริษัทประเมิน เพื่อให้รู้ว่าที่ใดคุ้มค่าที่สุดก่อนการเลือกซื้อ อีกทั้งควรต่อรองราคาให้ได้ราคาที่ต่ำมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ การต่อรองราคาถือเป็นกลยุทธ์สำคัญที่ต้องใช้เสมอ ก่อนที่จะทำสัญญาซื้อขายขั้นสุดท้าย โดยให้ระลึกไว้เสมอว่าเงินทุกบาทที่ท่านต่อรองซื้อได้ต่ำกว่าราคาเสนอขาย นั่นหมายถึงกำไรและประโยชน์ที่จะตกมาถึงท่านในที่สุดนั่นเอง
???? 9. ขอหลักฐานให้ชัดเจน
ก่อนการทำการซื้อขายควรที่จะตรวจสอบและขอหลักฐานเก่าๆ ที่เป็นส่วนประกอบของสัญญาเดิมเอาไว้ เพราะเอกสารเหล่านี้มีผลในการบังคับให้เจ้าของโครงการต้องปฏิบัติตามที่ตกลงหรือสัญญาที่เคยระบุไว้
???? 10. ใช้บริการของ สถาบันการเงิน
การเลือกซื้อบ้านมือสองโดยใช้บริการของสถาบันการเงิน จัดเป็นกลยุทธ์สำคัญในการเลือกซื้อบ้านมือสองอย่างชาญฉลาดทางหนึ่ง เพราะเป็นช่องทางที่มีบ้านมือสองมาให้เลือกสรรจำนวนมากขึ้น และยังมีโอกาสได้รับคำแนะนำและการช่วยเหลือในด้านต่างฯ ที่เกี่ยวข้องกับการซื้อบ้านมือสอง เช่น การพาไปดูบ้านจริง การติดต่อด้านสินเชื่อและการราคาประเมิน ซึ่งบริการเหล่านี้มักไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย หรือหากเสียก็น้อยมาก